วิธีการทำ

คือ ทำความสะอาดผิวที่ต้องการแว็กซ์  ใช้ครีมป้ายให้ทั่วแขน,ขา หรือบริเวณที่ต้องการกำจัดขนส่วนเกิน  นำผ้าแว็กซ์วางทับใช้มือรีดให้แนบไปกับผิว ทิ้งไว้ตามเวลาที่ผลิตภัณฑ์แนะนำ แต่โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีแล้วลบออกตามแนวย้อนรอยขน ขนที่ต้องการกำจัดจะติดออกมา ส่วนใหญ่นิยมทำเดือนละ 1 ครั้ง

  ข้อดี :..สะดวก..ทำเองได้ง่ายดาย…เจ็บน้อยสุด ประหยัดเพราะไม่ต้องใช้เครื่องมือเยอะ

  ข้อเสีย : หากลอกไม่ถูกวิธีขนจะไม่หลุดแต่เราจะได้ความเจ็บจากหนังถลอกแทนเนื่องจากขนอาจไม่หลุดทั้งราก จะกลายเป็นเหมือนขนที่ถูกโกน ทำให้ขนใหม่งอกเร็วและหยาบกว่าเดิม
แว็กซ์ร้อน  (Hot Wax)
เป็นแว็กซ์ในรูปแบบเม็ด หรือ แบบบรรจุในกระป๋อง ก่อนใช้งานนำแว็กซ์อุ่นให้ละลายในหม้ออุ่นแว็กซ์ ที่สามารถปรับอุณหภูมิได้เพราะ ถ้าอุณหภูมิไม่ดีพอ ร้อนเกินไปก็อาจทำให้ผิวพองได้ ควรใช้อุณหภูมิประมาณ 48-55 องศาเซลเซียส เมื่อละลายเป็นน้ำ ให้นำมาป้ายที่แขน,ขา หรือบริเวณที่ต้องการกำจัดขนส่วนเกิน ใช้ผ้าแว็กซ์ รีดให้แนบไปกับผิว และทิ้งแว็กซ์ไว้ตามเวลาที่บรรจุภัณฑ์กำหนด แล้วลอกแผ่นผ้าแว็กซ์ออก การแว็กซ์กำจัดขนชนิดนี้สามารถทำซ้ำได้เมื่อครบ 3-6 สัปดาห์หลังจากการทำครั้งแรก การทำแว็กซ์ร้อนมีข้อดีมากกว่าเนื่องจากเมื่อผิวสัมผัสความร้อน รูขุมขนจะเปิด ทำให้แว็กซ์ง่ายขึ้นเห็นผลในระยะยาว

    ข้อดี การแว็กซ์ขนชนิดนี้สามารถกำจัดขนได้ถึงรากขน ทำให้ขนที่ขึ้นใหม่น้อยลงและเบาบางลง ไม่คันเวลาที่ขนงอกใหม่ ราคาประหยัด แว็กซ์ร้อนหนึ่งกระปุกสามารถใช้ได้หลายครั้ง

ข้อเสีย ขั้นตอนการทำและอุปกรณ์จะเยอะ ระหว่างแว็กซ์อาจจะรู้สึกเจ็บกว่าการทำแว็กซ์เย็น

ก่อนเลือกใช้แว็กซ์ขึ้นอยู่กับลักษณะของขน ลักษณะพื้นผิว ขนาดของบริเวณที่จะทำ โดยวิธีการลงแว็กซ์แบ่งตามประเภทมีดังนี้
1.ฮาร์ทแว็กซ์ Hard Wax
        เนื้อแว็กซ์มีลักษณะเนื้อแข็งและเซ็ตตัวเอง *ไม่ต้องใช้ผ้าแว็กซ์*

เหมาะสำหรับพื้นที่เล็กๆ เช่น คิ้ว หนวด รักแร้ และบิกินี่

วิธีการใช้ นำไปใส่ในหม้ออุ่นแว็กซ์ให้ละลาย ใช้งานได้ทันที

2.สตริ๊ปแว็กซ์ Stripe Wax 
        ต้องอาศัยความร้อนในการช่วยให้เนื้อแว็กซ์ละลาย *ใช้ผ้าแว็กซ์*

เหมาะกับแขน,ขา ,หลัง หรือพื้นที่ใหญ่ๆ

วิธีการใช้ นำไปใส่ในหม้ออุ่นแว็กซ์ให้ละลาย ใช้งานได้ทันที